หนังไทย ครบทุกรส อินทุกอารมณ์ Recommend หนังใหม่ HD 2024

หนังไทย

หนังไทย แอดมั่นใจว่าเพื่อนฝูงๆคงรู้จักกับภาพยนตร์ตลกไทยกันอย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น แสบสนิทลูกศิษย์สั่นศีรษะ, ชั่วร้ายหน้าเฉา อื่นๆอีกมากมาย ที่จำนวนมากชอบเป็นภาพยนตร์ในเครือของ สหมงคลฟิล์ม, RS อื่นๆอีกมากมาย แต่ว่าเมื่อช่วงผ่านไปปริมาณของภาพยนตร์แนวนี้กลับน้อยลงอย่างยิ่ง แม้กระนั้นมาแทนที่ร่วมกันตัดตอนต่างๆในรูปภาพยนตร์มาลงเป็นคลิปวิดีโอใน Social Media และชอบเป็นที่พอใจของมนุษย์อยู่เสมอ หรือแม้กระทั้งการที่นำฉากพวกนั้นไปปรับเปลี่ยนเป็นมีมต่างๆก็สามารถมอบเสียงหัวเราะแล้วก็ความสำราญให้กับผู้คนอยู่ตลอด อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เวลาไม่อาจจะทำให้ความน่าดึงดูดใจ

ของภาพยนตร์ลักษณะนี้ต่ำลงเลย เบื้องหน้าเบื้องหลังของความฮาไร้ขีดจำกัดที่ผู้คนต่างเผลอไผลนี้เป็นยังไง วันนี้แอดจะพาคุณย้อนไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ที่ความฮาแบบไทยๆให้หายนึกถึงกัน จะมีอะไรบ้างทดลองไปอ่านให้ฮาไม่ถูกกันได้เลย ชาวไทยโดยมากพอเพียงบอก หนังไทย  คำว่าภาพยนตร์ไทยจะเข้าโรงภาพยนต์ น้อยคนนักที่จะตั้งตาคอยไปดู หรืออาจเกิดขึ้นเนื่องจากประสิทธิภาพภาพยนตร์ไทยที่ผ่านๆมานั้นทำให้คนประเทศไทย

กำเนิดอคติที่ไม่ดีกับภาพยนตร์ หนังไทย ดูเหมือนจะทุกเรื่อง

หนังไทย

บางบุคคลถึงกับขนาดกล่าวลาภาพยนตร์ไทยไปตลอดชาติ แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วก็โชคร้ายนะครับเพราะเหตุว่าภาพยนตร์ไทยที่คุณภาพดีๆก็มีให้เลือกดูกันนะครับ จากเสียงสะท้อนกลับจากผู้กำกับหนังเรื่องมะลิลา คุณน้องชาย บุญยวรรธนะ ได้รายงานในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 28 พุทธศักราช 2562 ว่าวงการนั้น ยังขาดการผลักดันและส่งเสริมจากภาครัฐซักเท่าไหร่ คุณแสง อารี นักวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์และก็ผู้นำเข้าภาพยนต์ต่างชาติในไทย

ได้พูดว่า ภาพยนตร์ไทยปัจจุบันนี้แบ่งได้เป็นสองชนิด เป็นหนัง GDH กับภาพยนตร์ไทยโดยปกติ ซึ่งแสดงถึงช่องว่างในแวดวงภาพยนตร์ไทยที่แบ่งมาตรฐานให้มองเห็นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนด้านคุณพิมพกา โตวิระ ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์และก็ผู้ผลิตภาพยนตร์อิสระ บอกว่า เหตุการณ์ ที่กำลังต่ำนี้ส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นเนื่องจากว่าจะต้องพบเจอกับสมัยดิจิทัล ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนเรา (ขอบพระคุณข้อมูลที่ได้มาจาก ไทยเบิกบาน ThaiPBS)

อย่างไรก็แล้วแต่ปัญหาที่ภาพยนตร์ไทยจากที่เคยมีกระแสได้รับความดูชื่นจากต่างแดน ในช่วงเวลานี้กลับดูราวกับว่ามีอนาคตมืดมน ส่วนหนึ่งส่วนใดบางครั้งก็อาจจะเป็นเพราะเหตุว่าปัญหาจากตัวหนังแล้วก็จังหวะความอยากจากผู้ใช้ร่วมด้วย วันนี้ก็เลยมาเจาะข้อความสำคัญเกี่ยวกับตัว ในยุคนี้ (โดยมาก) ว่าเพราะเหตุใดถึงยังไม่ปัง ปัจจุบันเขายังบอกเหตุว่า ‘ที่แท้ๆแล้วพวกเรามีแผนสำหรับการปรับปรุงภาพยนตร์ไทยที่ดีตั้งแต่ปี 2555 แล้ว เรียกว่ายุทธศาสตร์การผลักดัน

และส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และก็วีดีโอ ระยะที่ 2 พุทธศักราช2555-2559 แต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบจะ 10 ปีแล้ว ไม่มีการกระทำให้แผนนั้นบรรลุ ดังที่เขียนไว้อย่างเอาจริงเอาจัง  หนังไทย ทั้งที่แผนนี้คณะกรรมการได้เรียนกรรมวิธีการส่งเสริมภาพยนตร์ในนานัปการประเทศ หนังประเทศเกาหลีประเทศออสเตรเลียอเมริกาประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผมมีความรู้สึกว่าแผนนี้ครอบคลุมในมากมายมิติ ถ้าหากมีการทำตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมายืนยันถึงวันนี้ภาพยนตร์ไทยของพวกเราจะปรับปรุงไปอีกไกลเลยนะครับ

หากผู้ใดกันแน่ต้องการรู้ว่าเนื้อหาแผนเป็นเยี่ยงไรอ่านได้ด้านล่างเลย

“อนงค์”
ภาพยนตร์ผีแนวโรแมนติกคอเมดี้ การกลับมากำกับภาพยนตร์ในรอบยาวนานหลายปี ของ เอส คมกฤษ ตรีบริสุทธิ์ (แฟนฉัน, เพื่อนซี้, สายจับบ้านเล็ก อื่นๆอีกมากมาย) เรื่องราวของ “โจ” (จี๋-สุทธิรักษา สมบัติพัสถานละเอียดลออ) เกมเมอร์ชายหนุ่มย่ำแย่ได้รับมรดกจากครอบครัว เป็นบ้านโบราณที่มีผีสาวเจ้าของบ้านคนเก่า “หญิงสาว” (โบว์-เมลดา สุศรี) ติดอยู่ในบ้าน พร้อมด้วยผีคนรู้จักมักคุ้นเป็น “ทองคำก้อน” (แจ็ค แฟนฉัน) แล้วก็ “ทองหยิบ” (ฝน มอนสเตอร์ฝน) ซึ่งคนก็ไม่ยินยอมหนี ผีก็ไม่ยินยอมไป จัดว่าต่างข้าง ก็เป็นเจ้าของบ้าน โจเลยเกิดความคิดรวมหัวกับผี เปิดบ้านผีสิงเพื่อหาเงิน โดยให้ผีจริงอีกทั้งสามตัว มาช่วยแสดงอย่างตีบทแตกจนกระทั่งหัวหน้าในเขตนั้นอย่าง “ก้อง” (ธามไท พลิกศิลป) ยังจำต้องขนหัวลุก

“หลานม่า”
รายได้แรงทั่วไทย ทัชหัวใจมากมาย ด้วยเหตุว่าความตั้งอกตั้งใจจากคณะทำงานทุกภาคส่วน พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับ เปิดเผยความรู้สึกว่า “สิ่งที่ทำให้ยินดีมากกว่าการที่คนถูกใจหนังของพวกเราเป็นการที่คนสังเกตุมองเห็นสิ่งที่คณะทำงานทุกคนตั้งอกตั้งใจทำในทุกส่วนจริงๆตั้งแต่บท แคสติ้ง การแสดง การถ่ายทำ แสงสว่าง เสียง โลเคชัน โปรดักชันวางแบบ เสื้อผ้า แต่งหน้าทาปาก ทำผม คอนทินิว การตัดต่อ แนวทางการทำสี การออกแบบเสียง เพลงประกอบ CG การโฆษณา PR ภาพนิ่งรวมทั้งเคลื่อนเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไปจนกระทั่งโปรดักชัน แล้วก็ Post ที่ราบระรื่นได้ไพเราะกลุ่มจัดแจง การที่คนดูแล้วอินไปกับหนัง โดยมองไม่เห็นคนทำก็ทำให้เราสุขสบายมากมาย แต่ว่าการที่ผู้ชมหนังแล้วอินไปกับหนังจนกระทั่งนึกถึงความตั้งอกตั้งใจของเจ้าหน้าที่ที่ทำอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำให้เราเป็นสุขมากมายๆขึ้นไปอีกขอรับ”

4 king 2
ฟื้นความจำกันสักนิดสักหน่อย 4KINGS ภาคแรกที่เข้าฉายในปี 2564 เป็นการเล่าราวการขัดกันแล้วก็วัฒนธรรมการตีกันของผู้เรียนอาชีวสมัย 90 จาก 4 สถาบัน อย่างเช่น อินทรอาชีวะ, เทคโนโลยีประชาชนชล (เทคโนโลยีประชาชนชื่น), มาศอาชีพ แล้วก็ช่างกลบูรณพนธ์ ตัวเรื่องเน้นไปที่ความเป็นอริระหว่าง อินทรอาชีวะ กับ เทคโนโลยีประชาชนชล และก็จากที่เปรยๆไว้ภายในช่วงท้ายเรื่อง ก็เอามาสู่ความไม่ถูกกันครั้งใหม่ ในภาค 2 ก็เลยเกิดเรื่องราวของ มาศอาชีพ กับ ช่างกลบูรณพนธ์  หนังไทย ภาคแรกคือเรื่องของเด็กช่างที่เรียนภาคตอนกลางวัน แม้กระนั้นภาค 2 จะเป็นเด็กช่างที่เรียนภาคเย็น มู้ดแอนด์โทนก็เลยมีความซ่า เปรี้ยว

แล้วก็ดุเดือดมากยิ่งกว่า เปลี่ยนแปลงจาก “ร็อกคลาสสิก” เป็น “อัลเทอร์เนทีฟ” เยอะขึ้น

หนังไทย

สาธุ (The Believers)
วิน เกมส์ และก็เดียร์ เพื่อนเกลอ 3 ผู้ลงทุนทำธุรกิจเกมโดยใช้เงินลงทุนจากการกู้ยืมนอกระบบ แต่ว่าประสบพบปัญหาธุรกิจเจ๊งรวมทั้งยังติดหนี้ติดสินก้อนโตกับเจ้าหนี้สุดโหดเหี้ยม พวกเขาต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ให้ได้ในเวลาอันจำกัด รวมทั้งพวกเขาก็ศึกษาและทำการค้นพบแนวทางที่จะหารายได้เยอะมากให้ได้ในเวลาอันเร็วทันใจ โน่นเป็นวิธีการทำธุรกิจวัดนั่นเอง พวกเขาใช้โมเดลธุรกิจ การตลาดแล้วก็ความรู้ความเข้าใจส่วนตัวเข้าไปทำให้ “วัดแมลงผึ้งม” ที่เหงาหงอยแปลงเป็นวัดดังในเวลาอันไม่นาน ยิ่งคนเข้าวัดมากแค่ไหน วัดก็มีเงินเวียนมากขึ้นเรื่อยๆเพียงแค่นั้น วัดและก็ความเลื่อมใสของคนเราก็เลยเป็นแหล่งทำเงินขนาดใหญ่ การหากินกับวัดคราวนี้จะสะดุดหรือราบรื่น ติดตามดูกันต่อได้กับ ” สาธุ ” ได้แล้วทาง Netflix

14 อีกรอบ
I Love You Two Thousand หนังรักฉบับย้อนในช่วงเวลาที่ได้ กระเป๋า นฤบดี เวชศาสตร์ จากหนังรักเรียกรอยยิ้มอย่าง Low Season สุขสันต์วันไม่มีแฟน มารับหน้าที่ดูแล พร้อมได้ 2 ดารามากมายความสามารถอย่าง นัท ณัฏฐ์ ธุระจริต  หนังไทย ดารานำชายมาดเซอร์มากมายความสามารถที่พร้อมแปลงลุคไปสู่โหมด “ไอเลิฟยู 2000” จับคู่กับ ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาการพาณิชย์ มารับบทนำคราวแรกบนจอภาพยนตร์ ที่จะพาผู้ชมมาร่วมย้อนคิดถึงการแอบรักหนแรก คุณอาจจะถูกใจ สำหรับรายละเอียดของ 14 อีกที ที่เผยออกมาแล้วนั้นจะเป็นหนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ย้อนวัย ที่อิงชีวิตจริงของเหล่าวัยรุ่นช่วงปลายที่คร่ำครวญ

หาช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนแรก ทั้งยังประสบการณ์ของความรักคราวแรก อกหักคราวแรก สหายกรุ๊ปแรก รวมทั้งความกล้าหาญแรกๆที่ย้อนความจำเมื่อใดก็สามารถเติมเต็มพลังชีวิตให้พวกเราได้เสมอ พร้อมบรรยากาศความสวยของเมืองไทยในมุมที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อน ผู้ชมเอง มีทั้งหมดที่แอนตี้ภาพยนตร์ไทยดังเช่นคนอย่างผมที่ไม่เคยดูและไม่เปิดโอกาสด้วย เห็นว่ารสนิยมการดูหนังของคนประเทศไทยที่ย้ำเพียงแค่ความสนุกสนานร่าเริงไม่เน้นย้ำรายละเอียด

ทำให้หนังดีรายละเอียดดีไม่มีลูกค้ามาซื้อ ไหนจะเรื่องแผ่นผี

หนังออนไลน์ในเวปอีกที่หนังเข้าได้ไม่กี่วันก็โดนซูมและก็ลงเวปแล้ว รวมทั้งผู้ที่ถูกใจดูหนังแต่ว่าไม่รักหนังเป็นขอเพียงแค่ได้มองโดยไม่สนใจเรื่องอรรถรสอีกทั้ง ภาพ และก็ เสียง เพียงแค่มองได้เป็นเพียงพอเขา ก็เลยไม่ค่อยนิยมเข้าโรงภาพยนต์ อันนี้ส่งผล กระทบต่อภาพยนตร์ไทย บทภาพยนตร์เดิมๆไม่มีอะไรแปลกใหม่ ตัวผู้ลงทุนผู้ผลิตหนังสร้างแม้กระนั้นหนังเดิมๆในเมื่อการผลิตหนังเป็นธุรกิจที่ย้ำผลกำไรสูงสุด เมื่อตลาดภาพยนตร์ไทยถูกใจหนังผีภาพยนตร์ตลกรวมทั้งหนังฟอร์มยักษ์ที่บันเทิงใจแบบฮอลลีวูด

ซึ่งอย่างข้างหลังตัดไปได้เลย หากรั้งที่จะสร้างจังหวะเจ๊งมีสูงอาจจะสู้หนังฮอลลีวูดมิได้ ก็เลยเหลือแค่หนังผีเฮฮา กะเทย หนังรักวัยรุ่นกระจัดกระจายไปหมด ไม่มีแนวหนังใหม่ใหม่ให้มองกัน คงจะแทบแปดปีแล้วที่อุตสาหกรรมหนังบ้านพวกเราอยู่คู่กับคำว่า ‘วิกฤตเชื่อถือภาพยนตร์ไทย’ ที่แท้ก็ตอบได้ยากว่าวลีนี้เกิดขึ้นมาเมื่อไร แม้กระนั้นที่สัมผัสได้ว่าบรรยากาศในแวดวงซบเซา

คนไม่ซื้อตั๋วเข้ามาดูในโรงหนังจนถึงมีคนพินิจพิจารณาสภาพการณ์แล้วก็ความน่ากังวลของอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ ก็คงจะราวปี 2016 ที่ภาพยนตร์ไทยทำเงินรวมกันตลอดปีได้เพียงแต่ 565 ล้านบาท และก็นับจากนั้น ดูราวกับว่าพวกเราก็อยู่กับ ‘ป้าย’  สล็อต 4  วิกฤตเลื่อมใสนี้ตลอดมา ในแง่ว่า ภาพยนตร์ไทยไม่บางทีอาจสร้างความน่านับถือให้แก่ผู้ชมอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

แวดวงภาพยนตร์ไทยดิ้นรนจัดการการเปลี่ยนแปลง

หนังไทย

(และไม่เปลี่ยน) เรื่อยๆมา พร้อมป้ายวิกฤตเลื่อมใสแขวนคอ ก็ถือว่าอึดพอได้ แต่ว่าปี 2023 นี้ ดูเหมือนจะเป็นปีแรกๆที่กล่าวได้ว่าแวดวงภาพยนตร์ไทยกลับมาแล้ว หากแม้บางทีอาจจะยังกล่าวได้ไม่เต็มปากว่าพวกเราไปพ้นจากวิกฤตดังกล่าวข้างต้น แต่ว่าการที่มีภาพยนตร์ไทยซึ่งเข้าฉายในปีนี้ทำเงินทะลุ 100 ล้านบาทเกินนับด้วยมือฝ่ายเดียว ก็นับว่าเป็นหมุดหมายที่น่าจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรลุเป้าหมายของ ‘สัปเหร่อ’ (2023) ที่ทำรายได้ถล่มทลายกว่า 600 ล้านบาท อยู่ในระดับสร้างการเกิดเรียกคน -ที่เริ่มคุ้นชินกับการดูหนังผ่านระบบสตรีมมิ่งที่บ้าน- ให้กลับเข้าไปดูหนังในโรง

ในพักหลัง พุทธศักราช 2490 นับว่าเป็นตอนสมัยรุ่งโรจน์ของ สตูดิโอถ่ายทำและก็ภาพยนตร์มีปริมาณเยอะขึ้น ต่อจากนั้นเมืองไทยไปสู่ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 นับว่าเป็นตอนซบเซาของ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ธุรกิจภาพยนตร์ในประเทศไทยเบาๆฟื้นคืนกลับมา หนังไทย  รวมทั้งได้แปรไปใช้ฟิล์มถ่ายรูป 16 มม.สำหรับในการผลิตภาพยนตร์หลาย 100 เรื่อง ซึ่งจำนวนมากจะเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น แล้วก็เมื่อบ้านเรือนไปสู่คราวคับขัน

หลายเรื่องได้แสดงบทของตัวเองในฐานะกระจกสะท้อนปัญหาการบ้านการเมืองรวมทั้งสังคม ในระยะเวลาระหว่างปี 2510-2522 ซึ่งเป็นตอนที่แวดวงเริ่มแปลงมาใช้ฟิล์มถ่ายรูป 35 มิลลิเมตร เสียงในฟิล์มแบบมาตรฐานสากลแทนฟิล์มถ่ายรูป 16 มิลลิเมตร แล้วก็การนำกย์สด ตอนนั้นผู้ผลิตและก็ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์แอ็กชั่นที่เด่นที่สุดเป็นสังสรรค์ จงรักภักดีละเอียดอ่อน มีชื่อเสียงในชื่อ พี สังสรรค์ หรือ ฟิลิป สังสรรค์ ในระดับสากล

ด้วยความคิดริเริ่มประกอบกับความจำเป็นที่จะนำออกไปสู่ตลาดต่างถิ่น ทำให้ผลงานของสังสรรค์มีความเป็นสากล ไม่เหมือนกับภาพยนตร์ไทยณ ตอนนั้น สังสรรค์เปลี่ยนเป็นผู้กำกับคนประเทศไทยคนแรกซึ่งสามารถทำเงินจากการเจาะตลาดต่างแดนได้เสร็จ จากภาพยนตร์แอคชั่นปี 2516 เรื่อง ‘ทองคำ'(S.T.A.B.) ถัดมาในตอนปี พุทธศักราช 2530-2539 โดยในตอนแรกทศวรรษวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ นอกเหนือจากภาพยนตร์จำพวกวัยรุ่นแล้ว หนังผี และก็หนังบู๊ แล้วก็หนังเอวี และก็หนังเกรดบี ก็มีการผลิตมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ