Insidious The Last Key กลับมาอีกทีกับหนังทริลเลอร์เหนือธรรมชาติที่วิญญาณยังคงตามมาติดๆคงจะประชิดตัวแล้วสำหรับ “Insidious: The Last Key วิญญาณตามติด: กุญแจผีบอก” จะพาพวกเราไปทำความรู้จักกับ ดร.เอลิส จิตสัมผัส กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ย้อนเล่ากลับไปในวัยเด็กรวมทั้งบ้านข้างหลังเก่าของคุณ สถานที่ที่เป็นจุดเริ่มแรกของการเปิดประตูสีแดงสู่โลกความตาย
มาถึงภาคที่ 4 วิญญาณก็ยังตามติด แล้วก็รายละเอียดของหนังก็ยังคงเป็นความกล้าหาญของคนเราป้านักปราบผี เอลิส เรนเนียร์ ที่รอบนี้ย้อนไปเล่าราวของเอลิส ตั้งแต่ยังเด็กกันเลยว่าคุณมีพรสวรรค์แม้กระนั้นบิดาที่เป็นพัสดีคุมผู้ต้องขังกลับไม่เคยรู้สึกปลื้มปิติกับความรู้ความเข้าใจมองเห็นผีของคุณแล้วก็เฆี่ยนเอลิสเมื่อใดก็ตามคุณกล่าวว่ามองเห็นผีที่รอรุกรามอยู่ในบ้านของครอบครัว ผ่านมา 63 ปี
เอลิสได้รับการว่าจ้างให้ไปปราบผีอีกรอบ Insidious The Last Key แต่ว่ารอบนี้บังเอิญว่าเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ที่ย้ายมาอยู่ในบ้านยุคเด็กของเอลิสรวมทั้งวิญญาณร้ายตัวเดิมยังคงวนเวียนอยู่ เอลิสตกลงใจกลับไปจัดแจงฝันร้ายในสมัยก่อนอีกรอบแล้วก็นี่ก็คืออีกหนึ่งผลงานหนังรสเลิศที่น่าชมอีกรอบของผู้กำกับ ฮิโรคาสุ วัวเรเอดะ ที่บางทีอาจจะยังไม่ถึงขนาดผลงานระดับมาสเตอร์พีชเรื่องใหม่ของเขา
แม้กระนั้นความประณีตแล้วก็ตั้งใจในเนื้อหาต่างๆยังคงมาตรฐานความเป็นวัวเรเอดะเอาไว้ได้อย่างมุ่งมั่น ซ้ำยังได้งานที่เกี่ยวข้องกับด้านการประพันธ์เพลงไพเราะเพราะพริ้งจับจิตของ “ริวอิจิ ซากะโมโตะ” มาร่วมประกอบ นี่น่าจะเป็นผลงานชิ้นด้านหลังๆของคุณครูที่ประดิษฐ์เอาไว้ ก่อนที่จะจากไปเมื่อมี.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แน่ๆว่าควรมีทั้งคนถูกใจแล้วก็คนรังเกียจหนังประเด็นนี้ แต่ว่าพวกเราก็ทุ่มเทใจให้ MONSTER หัวข้อนี้เป็นอีกหนึ่งหนังเรื่องโปรดในปีนี้ของพวกเราไปเสียแล้ว
Insidious The Last Key (2018) วิญญาณตามติด กุญแจผีบอก
ลีห์ วานเนล คู่คิดคู่คิดของผู้กำกับเจมส์ วาน ยังคงกลับมาในหน้าที่เขียนบทตลอดเป็นภาคที่ 4 และเล่นบทเป็น “สเปค” หนึ่งในกลุ่มปราบผีแล้วก็เป็นตัวปลดปล่อยมุกให้กับหนัง ที่เข้าคู่กันได้ดีกับ ทัคเกอร์คู่ขาร่างใหญ่นักคิดค้น มีมุกแป้กที่ทัคเกอร์อุตสาหะเล่นอยู่ 2 ครั้งในหนังเป็นมุกพ้องเสียง คุณเป็น psychic = ไซคิก (หมอปราบผี) ส่วนเราเป็น Side Kick = ไซด์คิก (ลูกน้อง,ลูกล้อ,ลูกกระจ๊อก) แต่ว่าในหนังใช้คำว่า แม่แพทย์-ลูกแพทย์
ข้างหน้าที่ผู้กำกับจากที่ลีห์ เคยดูแลเองในภาคที่แล้ว ภาคนี้ก็โยนหน้าที่ให้กับ อดัม โรบิเทล ผู้กำกับหนังสยองขวัญคนใหม่ ก็มาสืบต่ออารมณ์สยดสยองได้ตลอดดี มองดูในด้านหนังสยองขวัญหนังตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของแฟนหนังแนวนี้ได้เต็มที่ เนื่องจากว่าหนังวางปัญหามาว่าบ้านเก่าของเอลิสเต็มไปด้วยวิญณาณเยอะแยะ ฉากลุ้นตกใจก็เลยมาเต็ม ไม่ต้องให้เว้นตอนกันนาน สักครู่ลุ้น สักครู่ลุ้น เกือบจะปิดตากันทั้งยังเรื่องล่ะ
ห้องใต้ดินยังคงถูกใช้เป็นสนามรบหลักของฉากสยดสยองราวกับอีกหนึ่งแสนสองหมื่นแปดพันเรื่องก่อนหน้าที่ผ่านมา ชอบใจนะที่บ้านพวกเราไม่นิยมสร้างห้องใต้ดินเอาไว้ภายในบ้าน โดยรวมความน่าสยดสยองของภาคนี้จัดว่าทำเป็นใกล้เคียงกับ Annabelle Creation ที่ได้เสียงร่ำลือถึงบรรดาฉากสยดสยองที่อัดมาแน่นสาแก่ใจคนชอบดูหนังผี แต่ว่าจุดที่ถูกใจที่สุดในภาคนี้เป็นการเล่นล่อลวงกับผู้ชมให้งงงันว่าที่มองเห็นอยู่นี่ตกลงเป็นคนหรือผี
ก็ถือได้ว่าจุดหักมุมเล็กๆกึ่งกลางเรื่องได้เช่นเดียวกันนะถึงแม้ว่าหนังจะย้ายศูนย์กลางเรื่องจากเดิมที่เล่าครอบครัวแลมเบิร์ต แล้วย้ายมาเล่าของหมอปราบผีเอลิส แต่ว่าหนังก็ยังคงไม่ทิ้งฉากท่องโลกหลังความตายที่เป็นเรื่องสำคัญ ของแฟรนไชส์ Insidious ดีหน่อยที่รอบนี้ลดความเป็นแฟนตาซีของฉากโลกหลังความตาย แต่ว่าทำให้มองน่าสะพรึงกลัวเพิ่มมากขึ้นค่อยสมกับโลกหน้าหน่อย
บทหนังของลีห์ ทำเป็นดีสำหรับในการสร้างปัญหาต่างๆนานา Insidious The Last Key ให้เชิญติดตามต้องการรู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังอันดำมิดหมีของบิดา สิ่งที่ทำให้เกิดผีแต่ละตัวในบ้าน เป้าหมายของผีกุญแจ การเปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังของเจ้าของบ้านใหม่ หลักสำคัญที่ใส่เข้ามานี่เยอะแยะ น้อยเกินไปยังเพิ่มครอบครัวของน้องชายเข้ามาเพิ่มอรรถรสอีกในช่วงหลังให้หลานสาวของเอลิสมีความสามารถพิเศษมองเห็นผีเหมือนกับป้า
บอกได้เลยว่าแต่ว่าละข้อความสำคัญที่ระดมใส่เข้ามาทำให้หนังเดินหน้าไปอย่างสนุกน่าติดตาม ผูกชนวนไว้มากมายคอยการเฉลยคำตอบ แม้กระนั้นพอเพียงมาถึงจุดคลี่คลายนี่สิ กลับเสมือนถูกทิ้งค้าง นอกเหนือจากการสะสางปัญหาที่มองรวบรัดง่ายสุดๆแล้ว ปัญหาอีกมากมายก็ถูกนิ่งเฉยทิ้งเอาไว้ มิได้มีการชี้แจง สิ่งที่ทำให้เกิดผีกุญแจ ผีเด็กในบ้านหายไปไหน รวมทั้งกิจกรรมโหดเหี้ยมของบิดาก็มิได้ถูกขยายแล้วท้ายที่สุดบิดามีตอนสุดท้ายเช่นไร
ใจความสำคัญพวกนี้ล้วนถูกทอดทิ้ง แม้กระนั้นเลือกที่จะจบแบบดราม่าความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว และก็ขึ้นเงื่อนใหม่เพื่อไปสืบต่อความกล้าหาญหนต่อไปของป้าเอลิสในภาค 5ผู้กำกับ อดัม ก็อาจมาตรฐานของหนังสยองขวัญในจักรวาลของเจมส์ วาน ไว้เจริญ มีฉากให้ลุ้นกันถี่มากหนำใจคนชอบดูหนังแนวนี้ ตุ้งแช่ถี่ๆใบเสร็จรับเงินท์กันทั้งยังเสียงอีกทั้งภาพเอาให้มันผวากันตายไปข้างหนึ่ง บทก็ปูมาดีป้าหลานแท็กทีมกันปราบผี
มีคู่คิดไฮเทคเป็นแบ๊คอัพ ผูกมาดีแล้วล่ะแม้กระนั้นมาเสียเอาตรงการแก้เงื่อนเนี่ยล่ะ ที่ราวกับไม่รู้จักจะแก้อย่างไรให้งดงาม ก็ปลดปล่อยมันทิ้งไปเฉยๆซะงั้น เปลี่ยนเป็นข้อเสียของภาคนี้ไป แต่ว่าจะว่าไปหากมองตามมาตรฐานของแฟรนไชส์ INSIDIOUS ก็มิได้ห่วยไรนักหนาด้วยเหตุว่าเช่นไรแฟรนไชส์นี้ก็ด้อยกว่ากว่า The Conjuring อยู่แล้ว
ผู้ชม INSIDIOUS เองก็มิได้คาดหมายอะไรจำนวนมาก สล็อต 4 ได้มาดูแล้วมีผีดุๆโหดเหี้ยมๆมีฉากให้ลุ้นตกใจหนังก็มีให้ในระดับที่ถูกใจ จากนี้ก็คอยลุ้นถัดไปว่า เอลิส เรนเนียร์ จะครอสโอเวอร์ไปพบกับสามีภรรยาปราบผีเอ็ด รวมทั้ง โลเรน วอร์เรน จาก The Conjuring ไหม
รีวิว Insidious : The Last Key : ผูกมาดี แผ่ไม่สวย
มาเจอกันเสมอๆในทุกๆเช้าตรู่กับการเสนอแนะหนังน่าดูทุกวันที่ TrueID แล้วก็ TrueID+ มากมายอรรถรสความสนุกสนานไร้ขีดจำกัดกับ “Movie of the Day” วันนี้เป็นคราวของหนึ่งในแฟรนไชส์หนังสยองขวัญเรื่องดังเมื่อทศวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา กับ “Insidious: The Last Key วิญญาณตามติด: กุญแจผีบอก” ที่ถือได้ว่าเป็นหนังภาคตบท้ายปัจจุบันของหนังผีชุดนี้ ที่เป็นการขยายเรื่องราวความหลอนที่มาช่วยเติมเต็มประสบการณ์อาถรรพณ์ให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม
เกี่ยวกับเรื่องราวในสมัยก่อนของ ดร.เอลิซ ตั้งแต่ตอนวัยเด็ก สาว รวมถึงการสู้ทนต่อสู้กับภูติผีที่มันโผล่ขึ้นมาจากเมืองนรกเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ในคราวนี้การต่อสู้กับวิญญาณชั่วช้า “เอลิซ” ได้ถอดจิตไปในดินแดนข้างหลังความตาย ตรงนั้นเป็นตรงไหน ที่ๆเขาเรียกกันว่ามันเป็นส่วนที่ลึกสุดใจ ตรงนั้นจำเป็นต้องใช้ “กุญแจ” สำหรับเพื่อการเปิดโลกข้างหลังความตายที่ลึกที่สุด ที่ๆมีภูติผีปีศาจเฝ้าหลอกอยู่
โลกหลังความตายของภาพยนตร์ จะมาในแบบอย่างไหน ห้องแคบๆมุมใดมุมหนึ่งที่แสงสว่างเกือบจะไม่รอดผ่านได้ ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ในภาคนี้เอลิซได้เดินนำพาพวกเราเข้าไปสู่ “คุก” ที่มืดดำ อับ รกร้าง ว่างเปล่า แม้กระนั้นสุดแสนขนหัวลุกในภาคนี้ได้ “ลิน เชย์” ที่ได้สมญานามว่า Insidious The Last Key ป้าเรียกผี จากหนังชุดนี้ ขึ้นมาเป็นดารานำแทน เนื่องจากว่านี่เป็นเรื่องราวแหล่งกำเนิดของคุณโดยแท้จริง
พร้อมด้วยยังได้ “ลีห์ แวนเนลล์” มาสืบต่อและก็เขียนบทหนังหัวข้อนี้ให้เหมือนเคย โดยเปลี่ยนมือผู้กำกับมาเป็นดาราหนังชายหนุ่ม “อดัม โรบิเทล” (จาก Escape Room) มาดูแลงานสร้างให้แทน รวมทั้งนับได้ว่าเป็นหนังที่โล่งกำเนิดให้กับเขาในฐานะผู้กำกับหนังด้วยแน่ๆว่า Insidious Chapter 4 ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำ ที่ใช้เงินทุนไปแค่เพียง 10 ล้านเหรียญ
แม้กระนั้นหนังก็ยังโกยรายได้ทั่วทั้งโลกคืนมาแบบผลกำไรย้ำๆเหมือนปกติ เพราะเหตุว่าภาคนี้ได้เงินเข้ากระเป๋ามาไม่น้อยกว่า 160 ล้านเหรียญ ถึงแม้ว่าหนังจะได้รับข้อวิจารณ์ที่ออกจะน้อยนิดไปสักนิด เพียงแต่ 33% บนเว็บ Rotten Tomatoes แต่ว่าแฟนหนังก็ยังให้การอุดหนุนหนังหัวข้อนี้อย่างดีเยี่ยมสำหรับหนัง Insidious: The Last Key นั้น นับว่าความปังทำให้หนังได้โอกาสได้ลงโรงเข้าฉายในประเทศไทย
พร้อมๆกับฝั่งอเมริกา ช่วงวันที่ 4 ม.ค. 2561 รวมทั้งจัดว่าหนังเป็นหนังเรื่องแรกๆในปีนั้นที่สามารถโกยรายได้บนบ็อกซ์สำนักงานบ้านพวกเราไปได้ออกจะน่าพึงพอใจระดับหนึ่งภาคนี้มีความน่าดึงดูดใจตลอดตัวบทที่เชื่อมกับภาคอื่นๆได้อย่างดีเยี่ยม (ไม่มองภาคก่อนๆมาก็เข้าใจ) การมัดเงื่อนให้ผู้แสดงไขปัญหาไปครั้งละเรื่องอย่างกระชับรวมทั้งเข้าใจง่าย เปิดเรื่องเกริ่นน้อยก็เริ่มล่าหากุญแจออกฝ่าท้าทายผีกันเลย
ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังผี ภูติผี ก็จำต้องลุ้นกับจังหวะการลวงตุ้งแช่ลงในเรื่อง ซึ่งทำออกมาได้ค่อยข้างโอเค ตระหนกตกใจผวาแรงมากมาย (ด้วยเหตุว่าซาวน์ดังสุด) ถึงจะไม่กี่ฉากที่หลอนก็เหอะ เผลอเมื่อไรมันจะโผล่มาโดยไม่ทันรู้ตัว กรี๊ดลั่นโรงสิรอคอยอะไร นอกเหนือจากความน่าสยองยังมีความเฮฮาของผู้แสดงที่แทรกสอดเข้ามาให้ฮากรุบกริบเว้นวรรคให้หายใจ
ดาราหนังน้อยเด่นจำง่ายทุกนักแสดง ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดิบได้ดีโดยยิ่งไปกว่านั้น ป้าลิน เชย์ ในที่สุดสิ่งที่เกลียดของหนังแนวนี้ เป็นการปราบปีศาจร้ายที่มองง่ายไปนิด เอ้าอย่างงี้ก็ได้หรอบทจะง่ายก็ง๊ายง่าย ชั่วร้ายเข้มแข็งมาตั้งนาน!! รวมๆแล้วเป็นภาคที่บันเทิงใจดีๆมองเพลิดเพลิน หลอนนิดๆตกใจหน่อยๆ
รีวิวซีรีส์ Gen V: เมื่อ X-men ถูกมองผ่านโลกของ The Boys ค้ำประกันความเหวอกิน
มารี เด็กในสถานที่ไตร่ตรองของผู้มีพลังพิเศษหรือซูปส์ คุณได้โอกาสสำหรับในการเข้าห้องเรียนที่ กอโดลคิน หรือ ก็อดยู มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของซูปส์ ด้วยความฝันต้องการเป็นสตรีผิวดำคนแรกที่ได้เข้าท่ามเดอะเซเวน แม้กระนั้นก็อดยูก็มีปัญหาอะไรบางอย่างที่มิได้สวยสดงดงามและก็น่าสงสัย เหมือนกับสมัยก่อนของคุณ
ซีรีส์ ‘The Boys’ ของ Prime Video อาจจะกล่าวว่าเป็นคอนเทนต์เรือธงของแพลตฟอร์มอย่างเต็มปาก แล้วก็เมื่อเรื่องราวการต่อสู้ของฝูงคนปกติที่เต็มไปด้วยความแค้นต่อความปัดความรับผิดชอบของพวกที่ขึ้นชื่อว่าฮีโรได้เดินทางมาถึงซีซันที่ 3 และก็ลงเอยด้วยการกลับมาเรืองอำนาจของจอมภูติผีปีศาจอย่างโฮมแลนเดอร์จนกระทั่งผู้ชมต้างคาใจอยากที่จะให้รีบมีซีซันที่ 4 ไวๆ
อีกคนก็คือ “ฮิท้องนาตะ ฮิอิรางิ” ก็มอบการแสดงที่น่าประทับใจไม่น้อย ถึงแม้ภาพลักษณ์ของเด็กคนนี้จะเต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็น่ารักน่าชัง แม้กระนั้นสามารถตีความหมายและก็ถ่ายทอดบทที่ได้รับออกมาได้ลึกซึ้งกว่าที่คาดเอาไว้ทีเดียว รวมทั้งแปลงเป็นว่าส่วนประกอบการแสดงของดาราเด็กทั้งยัง 2 คนนี้ได้ผนึกกำลังกันออกมาทำให้เรื่องราวที่อสูรกายยิ่งแข็งแรงรวมทั้งทรงอำนาจมากยิ่งกัน
ในสุดท้ายแล้ว MONSTER ก็เป็นหนังชีวิตอีกบทหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนที่บางทียากจะชี้แจงออกมาได้ นี่เป็นละครที่ชีวิตจริงๆผ่านการเผยเรื่องราวด้านมืดและก็ด้านสีเทาของคนเราที่บางคราวก็ไม่มีผู้ใดรู้จักตนเองดีพอเพียง แม้กระทั้งกับตนเองก็ตาม Insidious The Last Key มันเป็นหนังดราม่าที่พาเข้าไปตรวจสอบมุมมองของผู้คนนานัปการด้านแบบเบาๆซึมลึกสิ่งที่ผู้ผลิตตอบโต้แฟนคลับเป็นซีรีส์ภาคแยกเรื่องราวของวัยรุ่นที่ศึกษาการเป็นซูปส์ในเรื่อง ‘Gen V’
ซึ่งเล่นกับชื่อของยา คอมพาวด์-วี ที่เปลี่ยนแปลงกรรมพันธุ์เด็กแรกเกิดปกติในท้องให้เปลี่ยนเป็นซูปส์ ที่พวกเราเคยรับรู้มาบ่อยจากซีรีส์ ‘The Boys’ และก็มีขณะของเรื่องอยู่ในขณะข้างหลังซีซัน 3 พอดิบพอดี ทำให้พวกเรามองเห็นข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับกลุ่มเดอะเซเวน และก็ช่วงเวลาเดียวกันก็ได้มองเห็นบางผู้แสดงจาก ‘The Boys’ มาโลดแล่นในมหาวิทยาลัยยอดมนุษย์ด้วย
อย่างเช่น แอชลีย์ที่ขึ้นมาเป็นเลขาของโฮมแลนเดอร์รวมทั้งประธานของวอจต์ คุณยังคงมีฉากสั่งการ อินทิรา อธิการบดีของก็อดยูด้วยก็นับเป็นความเฉลี่ยวฉลาดสำหรับการพักเส้นเรื่องหลัก และก็หันไปปั้นเส้นเรื่องคู่ขนานที่บางทีอาจเติมแต่งจินตนาการใหม่ๆลงไปได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่า แล้วก็ยังทิ้งหลักสำคัญคำใบ้สิ่งที่กำลังกำเนิดใน ‘The Boys’ ซีซันหน้าไว้ด้วย จะกล่าวว่า ‘Gen V’เป็น‘The Boys Season 3.5’ ก็บางทีอาจไม่ผิดนัก
